5 สิ่งที่ มูรินโญ่ ควรเรียนรู้จากมหาบุรุษ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เป็นที่รู้กันว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นมหาบุรุษผู้นำความยิ่งใหญ่คืนสู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายหลังจากหลับเป็นเวลายาวนานกว่า 26 ปี เขานำ "ผีแดง" ครองความเป็นเจ้าลูกหนังเมืองผู้ดีกว่า 2 ทศวรรษ และก็ยังผงาดครอบครองความเป็นยอดทีมในยุโรปด้วย

ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สิ่งที่ทำให้ "เฟอร์กี้" เป็นที่ปรึกษาระดับตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ก็คือสไตล์การควบคุมทีม และก็การเข้าใจในเรื่องแก่นแท้ของเกมลูกหนังโดยเฉพาะอย่างยิ่งปรัชญาของแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเขาได้สร้างสโมสรแห่งนี้ให้แปลงเป็นกลุ่มที่ไม่เคยยอมแพ้ และก็พร้อมสู้ทุกจนหยดสุดท้ายถ้าหากยังมีเวลาหลงเหลืออยู่

อย่างไรก็ดี สิ่งพวกนี้ไม่เหลืออีกแล้วนับจากที่ "เฟอร์กี้" วางมือ รวมทั้งยิ่งตกต่ำกว่าเดิมเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ตกอยู่ในกำมือการจัดการทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่เปลี่ยนแปลงทีมที่เล่นบอลเอนเตอร์เทน เปลี่ยนเป็นทีมที่แสนน่ารำคาญไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว

"เฮียมู" ไม่สามารถที่จะดึงความสามารถที่แท้จริงของ ปอล ป็อกบา ออกมาได้ หรือการไม่เชื่อมั่นในนักฟุตบอลดาวรุ่ง ทำให้พวกเขามิได้รับจังหวะในการพัฒนาฝีเท้า สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าเกิดอยู่ภายใต้ลักษณะการทำงานของ มหาบุรุษชาวสกอตแลนด์ แน่ๆ

5. รู้เรื่องตลาดจำหน่ายนักฟุตบอล

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รู้เรื่องตลาดพ่อค้าหน้าแข้งอย่างถ่องแท้ เขาเคยทุ่มเงินเป็นสถิติโลกสำหรับในการซื้อกองหลังมาแล้วเมื่อทีมจำเป็นต้องการตำแหน่งนี้ และไม่พอใจซื้อคนไหนมาร่วมทีมเลยแม้ว่าไม่มีความจำเป็นต้องซื้อ แน่นอนว่า "เฟอร์กี้" ทราบถึงสิ่งที่กลุ่มของเขาหายไป และก็มานะอย่างมากสำหรับการดึงความสามารถพิเศษของนักฟุตบอลออกมา

ตำนานที่ปรึกษาชาวสกอตติช เคยควักเงินในกระเป๋าดึงนักฟุตบอลความสามารถพิเศษที่ไม่เคยมีผู้ใดรู้จักอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมทีม และก็นายทวารดาวรุ่งอย่าง ดาบิด เด เคอา เพราะเหตุว่าพวกเขาเป็นผู้เล่นที่จำเป็นมากอย่างยิ่งที่จะเข้ามาเติมเต็มในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ในตอนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ มาจาก อาร์เซน่อล ดูราวกับว่า เซอร์เฟอร์กี้ โดนเสียดสีสำหรับเพื่อการซื้อนักฟุตบอลรายนี้ แต่ว่าภายหลังผ่านไป 38 แมตช์ "อาร์วีพี" ช่วยทำให้ "ผีแดง" ได้แชมป์ลีกได้สำเร็จ นี่เป็นสิ่งที่ มูรินโญ่ จำต้องศึกษา

นับจากที่ มูรินโญ่ เข้ามาปฏิบัติงานกับ แมนฯ ยูฯ เขาทุ่มเงินเป็นสถิติโลกซื้อ ปอล ป็อกบา แต่ว่าไม่ค่อยได้ใช้เขาอย่างเหมาะควร แล้วต่อจากนั้นก็ ดึง เอริก ไบยี่ และก็ในช่วงฤดูกาลต่อมาก็คว้าตัว วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ รวมถึงดึง เฮนริค มคิตาร์ยาน ซึ่งเป็นกองกลางตัวสร้างสรรค์เกมแต่ว่าเขาไม่เคยใช้นักฟุตบอลในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์เลย

สำหรับฤดูนี้ "เฮียมู" ไม่สามารถที่จะดึงนักฟุตบอลความสามารถพิเศษมาร่วมทีมได้เลย ที่สำคัญเขาไม่รู้จักถึงสิ่งที่เขาอยากได้ เขาดึง อเล็กซิส ซานเชซ มาร่วมทีมตอนหน้าหนาวก่อนหน้าที่ผ่านมา ถึงแม้ว่ามีสองดาวรุ่งความสามารถพิเศษเล่นในตำแหน่งเดียวกันแท้ๆ( อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด) และไม่ค่อยมอบโอกาสดาวรุ่งเท่าไรนัก นี่เป็นสิ่งที่ มูรินโญ่ น่าจะศึกษาว่า เฟอร์กูสัน ทำอย่างไรเกี่ยวกับเหตุการณ์อย่างนี้ 

4. ถ่อมตน

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ครอบครองแชมป์ 38 รายการในฐานะกุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ว่าไม่เคยมีคราวไหนที่คุณจะได้ยินเขาคุยโม้.คุยโวเกี่ยวกับตนเอง เขาเป็นคนแรกที่ออกมารับคำต่อว่าในหลายๆสิ่งที่บกพร่อง รวมทั้งชอบยกเครดิตให้กับทุกๆคนเสมอ 

ในตอนระหว่างที่จับบังเหียนเขาจะต้องประมือกับกุนซือเยอะมาก โดย "เซอร์เฟอร์กี้" เป็นผู้ที่โด่งดังมากมายๆสำหรับในการเล่น "สงครามจิตวิทยา" แต่ว่าช่วงเวลาเดียวกันเขาก็ให้ความยำเกรง และก็เชื่อถือเพื่อนร่วมอาชีพด้วยเหมือนกัน มหาบุรุษเลือดวิสกี้ สามารถคุมสติกราดเกรี้ยวของตนได้ แล้วก็เป็นผู้ที่สุภาพอ่อนโยนเสมอ

อย่างไรก็ดีเขาก็ชอบใส่สุดกำลังกับผู้ตัดสิน มีบ่อยมากที่มองเห็นเขาจัดหนักใส่ผู้ตัดสินที่ 4 แล้วมีจำนวนกี่ครั้งที่เขาตะเบ็งและก็กราดเกรี้ยวใส่ท่านเปา ? เซอร์อเล็กซ์ จะต้องพบเจอกับข้อบัญญัติโทษจากเอฟเอ เกี่ยวกับการกระทำของเขา และไม่เคยพูดจาลดเลี้ยวกับผู้ตัดสิน นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขาเป็นผู้จัดการทีมที่น่าเคารพในลีก

มูรินโญ่ มักปฏิบัติตัวจองหองทระนง แล้วก็คุยโวโอ้อวด เขามุ่งมาดให้ทุกๆคนเคารพนับถือในตัวเขา หากเขาอยากได้ความยำเกรงจากคนอื่นๆ เขาจำต้องทำความเข้าใจที่จะยกย่องสมาชิก แล้วก็เพื่อนร่วมอาชีพด้วย โดยผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวประเทศโปรตุเกสจะต้องรู้จักที่จะอ่อนน้อมถ่อมตัวให้มากยิ่งกว่านี้

ถ้าเกิดจะมองหาผู้ที่น่ายกย่องเคารพยกย่อง และก็เป็นกุนซือที่เก่งมากมายๆในพรีเมียร์ลีก ยกตัวอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า รวมทั้ง เมาริซิโอ ซาร์รี่ แม้ว่ามันอาจจะสายเกินความจำเป็นที่ มูรินโญ่ จะกลับเนื้อกลับตัว แน่นอนว่าความทระนงตัวของเขาจะมีผลให้เขาจะต้องเจอกับหายนะครั้งแล้วครั้งเล่า

3 เชื่อถือในลูกทีม 

นักฟุตบอลทุกคนที่เล่นภายใต้การกุมบังเหียนของยอดคนสกอตติช เคารพยำเกรง แล้วก็รักท่านเซอร์จนสุดลิ่มทิ่มหัวใจของพวกเขา เขาไม่เคยจะต้องร้องขออะไรทั้งหมด นี่เป็นการกระทำรวมทั้งทางที่เขาใช้เพื่อการดำรงชีพมาตลอด "ป๋ากี้" เคยทะเลาะเบาะแว้งกับสมาชิกหลายๆคนในตอนระหว่างคุมทีม แม้กระนั้นมีนักเตะเพียงแต่ไม่กี่คนที่ไม่สบอารมณ์

เขาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลที่เก่งมากมายๆรวมทั้งเป็นหนึ่งในบุคคลที่เต็มไปด้วยความสามารถพิเศษ แม้ว่าจะพูดจาร้ายแรงใส่ผู้ร่วมทีมในห้องแต่งตัวหลายๆครั้งก็ตาม โดยทุกๆคนที่เกิดมาในยุคของ "เฟอร์กี้" ชอบเล่า "แฮร์ดรายเออร์" ที่ป๋าใช้กับผู้ร่วมทีม ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยวิภาควิจารณ์ผู้ร่วมทีมกับสื่อ เขารู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา แต่ว่าในเวลาเดียวกันก็สามารถดึงฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของผู้ร่วมทีมออกมาได้เสมอ

นึกออกไหมว่า "เซอร์เฟอร์กี้" จัดแจง เวย์น รูนี่ย์ ในฐานะเด็กห้าวให้เชื่องเป็นแมว, เฉดหัว เดวิด เบ็คแฮม ที่ปฏิบัติตนขัดแย้งแล้วดึง โรนัลโด้ มาแทนที่ เขารู้เรื่องลูกทีมของเขาได้อย่างดีเยี่ยม นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลที่เก่งที่สุดอย่างแท้จริง

ในขณะที่ มูรินโญ่ ยังคงห่างชั้นท่านเซอร์ในหัวข้อนี้ เขาไม่อาจจะดึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของ ป็อกบา, ไบยี่ และก็ ซานเชซ ออกมาได้เลย แถมยังมีหลายครั้งที่ชอบมีปัญหากับลูกทีมตนเอง นอกเหนือจากนั้นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้จัดการทีมฟุตบอลมิได้รับความเคารพนับถือจากนักฟุตบอลก็คือการวิพากษ์สมาชิกตนเองกับสื่อด้วย 

2 การประสมประสานดาวรุ่งกับลำแข้งประสบการณ์ 

"เซอร์เฟอร์กี้" ชอบสร้างทีมเพื่ออนาคตเสมอ โดยเขาเก่งมากๆสำหรับการผสมนักฟุตบอลดาวรุ่งแล้วก็ผู้เล่นมากมายประสบการณ์เพื่อทำให้สโมสรแกร่งยากจะหากลุ่มไหนมาเท่าเทียมได้ ในยามที่นักฟุตบอลสำคัญเริ่มโรยรา "ป๋ากี้" ก็สามารถดันลำแข้งวัยละอ่อนขึ้นมาเพื่อชดเชยอย่างกรณีเหล่าแก๊ง "คลาส ออฟ 92" ฯลฯ

นอกจากนั้น เฟอร์กูสัน มีพรสวรรค์ในเรื่องที่ให้แข้งมากประสบการณ์รอประคับประครองนักฟุตบอลดาวรุ่ง ซึ่งยังไม่สามารถที่จะแบกรับหน้าที่หน้าที่ได้อย่างมาก แต่ว่าสิ่งจำเป็นของลำแข้งวัยละอ่อนก็คือการที่จะจำต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าและก็ทัศนคติของสมาคมเป็นอย่างแรก กลุ่มทุกชุดของเฟอร์กูสันที่ผลิตขึ้นมาจะมีนักเตะดาวรุ่งเกรดเอ แล้วก็ชอบใส่ดีเอ็นเอความเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ให้กับผู้ร่วมทีมทุกคน

ส่วน มูรินโญ่ เปลี่ยนความเป็นแมนฯ ยูไนเต็ด จนถึงหมดไป เขาทุ่มเงินซื้อนักฟุตบอลเข้ามาร่วมกลุ่ม โดยไม่เคยคิดอุตสาหะให้นักฟุตบอลดาวรุ่งได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เขาบากบั่นพิสูจน์ตนเองว่าเป็นผู้ชนะโดยไม่ยินยอมเสียเวล่ำเวลากับการผลิตอะไรทั้งหมด แล้วก็นี่เป็นปัญหาใหญ่ของเขา 

เห็นได้ชัดว่าเขาควรต้องใช้นักฟุตบอลดาวรุ่งด้วยเหตุว่าโดนบีบคั้นให้จำเป็นต้องส่งลงในสนาม โน่นเป็นเหตุผลที่ว่าเพราะอะไรพวกเขาถึงประสบความล้มเหลว และไม่มีความก้าวหน้าอย่างที่พวกเขามุ่งหวัง "เฮียมู" ไม่คิดที่จะสร้างกลุ่ม เขาไม่สนใจเรื่องอนาคต รวมทั้งนี่เป็นเลิศในบทเรียนที่สำคัญมากๆที่ ผู้จัดการทีมเลือดฝอยทองคำ น่าจะศึกษาจาก "เซอร์เฟอร์กี้" ซึ่งก็คือการผลิตกลุ่มเพื่ออนาคต

1. บอลเล่นสนุกเร้าใจ 

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นกลุ่มยอดนิยมที่สุดในโลกก็คือการที่พวกเขาเล่นบอลที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ตื่นเต้น กองทัพ "ซาตานแดง" ไม่ใช่แค่กลุ่มยักษ์ใหญ่แค่นั้น แม้กระนั้นพวกเขายังเป็นกลุ่มที่เล่นด้วยสไตล์ที่สุดตื่นเต้น และก็เอนเตอร์เทนแฟนบอลสุดๆ

"เฟอร์กี้" ชอบเน้นย้ำการเล่นเกมบุก แล้วก็ยังมีเกมสวนกลับที่เฉียบคม แมนฯ ยูฯ มักสร้างความระทึกใจให้กับแฟนบอลเสมอ โดยบรรดาสาวก "เร้ด อาร์มี่" พันธุ์แท้พร้อมที่จะส่งเสียเชียร์เพื่อเป็นการให้กำลังใจกลุ่มรักตั้งแต่นาทีแรกจนตราบเท่าสิ้นเสียงนกหวีดยาวในนาทีในที่สุด โดยยิ่งไปกว่านั้นยี่ห้อของกลุ่มสมัยเซอร์ก็คือตราบเท่าที่ยังมีเวลาก็จะสู้จนถึงหยดท้ายที่สุดเนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ยกตัวอย่างนัดหมายชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในช่วงฤดูกาล 1998-99 ที่คว่ำ บาเยิร์น มิวนิค 

"เร้ด เดวิลส์" ในสมัยนั้นไม่มีคำว่ายอมแพ้พวกเขาสามารถกลับเหตุการณ์กลับมาได้เสมอ และก็นี่เป็นสิ่งที่แฟนบอล "ปีศาจแดง" ทั่วทั้งโลกชอบพอ เพราะเหตุว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รู้เรื่องอารมณ์ความรู้สึกของสาวก "เร้ด อาร์มี่" อย่างดีเยี่ยม รวมทั้งทราบว่าพวกเขาปรารถนาเห็นทีมเล่นบอลที่เน้นย้ำความสนุกสนานตื่นเต้น รวมทั้งเต็มไปด้วยความสามารถ

แม้กระนั้นช่างน่าสลดใจอย่างมากในสมัยของ มูรินโญ่ เนื่องจากว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เคยเป็นกลุ่มที่น่าเคารพสำหรับการเล่นเกมบุก เปลี่ยนภาวะเป็นกลุ่มที่ไม่มีความสนุกสนานร่าเริงเช่นเดียวกับของกินที่แสนจืดจาง รวมทั้งแทบไม่มีเกมไหนที่กลุ่มเล่นได้น่าระทึกใจเลย พวกเขาเปลี่ยนเป็นกลุ่มที่แสนน่ารำคาญ เน้นย้ำการโยนยาว ตั้งเกมรับแน่นแฟ้นอย่างกับมีรถบัสอยู่ในสนาม โดยจุดหมายก็คือคว้าแชมป์ หรือแบ่งแต้มแค่นั้น

การเล่นแบบงี้มีเสน่ห์ที่ไหน ? เกมบอลมันจะสวยสดงดงามได้อย่างไรถ้าเกิดคุณหมดอารมณ์ร่วม นี่เป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญที่ มูรินโญ่ จำต้องทำความเข้าใจจาก เฟอร์กูสัน ที่สำคัญสิ่งนี้เป็นเหตุผลที่ว่าเพราะเหตุใด มหาบุรุษชาวสกอตตำหนิช ถึงเป็นหวานใจของสาวก "ผีแดง" ทั้งโลก ส่วน "เฮียมู" อาจจะไม่มีทางทำได้

ติดตามข่าวสารอีกมากมาย คลิก : ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก , ข่าวฟุตบอลล่าสุด , ผลบอล ย้อนหลัง , ตารางบอลวันนี้